เพิ่มสินค้าในเมนูลัดสินค้า
1. เข้าสู่เมนูลัดสินค้า
ล็อกอินเข้าสู่ระบบ Manager App > เลือกร้านค้าที่ต้องการ > ที่หน้าแรกในส่วนภาพรวมธุรกิจดูหัวข้อเมนูลัดแล้วกด“สินค้า”

2. เลือกหัวข้อรายการสินค้า
กดที่เมนู “เพิ่มสินค้า” โดยสินค้าที่สร้าง สามารถสร้างแบบ สินค้า , สินค้ามีตัวแปร หรือ ชั่งน้ำหนักสินค้าได้

3. เพิ่มสินค้าใหม่
หลังจากกด “เพิ่มสินค้า” ระบบจะขึ้นให้กรอกรายละเอียด ทำการ กรอกชื่อสินค้า
- ระบุ ชื่อสินค้า ที่ต้องการสร้าง
- ระบุ ชื่อสินค้า (GrabFood)
หมายเหตุ: ชื่อสินค้า (GrabFood) ใช้เฉพาะกับร้านค้าที่ผูกบัญชี Grab เท่านั้น

4. เลือกหมวดหมู่สินค้า
เลือก หมวดหมู่ ที่ต้องการสำหรับสินค้านั้นหากไม่มีหมวดหมู่ที่ต้องการ
- ให้กดปุ่ม “เพิ่ม” เพื่อสร้างหมวดหมู่ใหม่
- กรอกชื่อหมวดหมู่ที่ต้องการสร้าง
- กดบันทึกเพื่อยืนยันการสร้างหมวดหมู่ใหม่

5. การเลือกประเภทสินค้า
ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ระหว่าง
- สินค้าไม่มีตัวแปร หมายถึง สินค้าที่มีราคาเดียวเท่านั้น
- สินค้ามีตัวแปรหมายถึงสินค้าชนิดเดียวกันแต่มีหลายราคาเช่นข้าวผัด (หมู, ไก่, ทะเล) / เสื้อสีดำ (ไซส์ S, M, L, XL)

6. การตั้งค่าตัวแปรสินค้า (กรณีเลือก “สินค้ามีตัวแปร”)
เมื่อเลือกสินค้ามีตัวแปร ระบบจะแสดงหน้าต่างให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลดังนี้ :
- ชื่อตัวแปร ระบุชื่อของตัวแปรสินค้านั้น ๆ เช่น หมู, ไก่, ทะเล หรือ ไซส์ S, M, L เป็นต้น
- ราคาขาย ระบุราคาขายของตัวแปรสินค้านั้น
6.1 กด ดูเพิ่มเติม (เลือกเพื่อกรอกรายละเอียดเพิ่มเติม) ได้แก่
- ราคาต้นทุน หากระบุราคาต้นทุนในรายงานการขาย ระบบจะคำนวณกำไรสุทธิของสินค้านั้นๆ
- บาร์โค้ด ระบุตัวเลขบาร์โค้ดของสินค้าตัวแปร (ถ้ามี)
- สต็อกสินค้า ระบุจำนวนสต็อกของสินค้าตัวแปรนั้น ๆ
- สต็อกสินค้าเหลือน้อย หากระบุจำนวนขั้นต่ำและเปิดใช้งานฟังก์ชันแจ้งเตือนสต็อกเหลือน้อย ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อสินค้าถึงจำนวนที่กำหนด
- ตั้งเป็นแบบหลัก ทำเครื่องหมาย (ติ๊ก) เพื่อกำหนดตัวแปรนั้นให้แสดงเป็นตัวเลือกอันดับแรก
เมื่อกรอกข้อมูลตัวแปรสินค้าเรียบร้อยแล้วสามารถกด เพิ่มกลุ่ม เพื่อเพิ่มตัวแปรใหม่เพิ่มเติมหรือกด ตกลง เพื่อบันทึกตัวแปรที่สร้างขึ้น

6.2 การกรอกข้อมูลกรณีเลือก “สินค้าไม่มีตัวแปร”
เมื่อเลือกสินค้าที่ไม่มีตัวแปร ระบบจะให้ระบุข้อมูลดังนี้:
- เปิด/ปิด การแสดงวัตถุดิบ
- หากเปิดใช้งาน การมองเห็นรายการสินค้านี้จะถูกปิดในระบบขายหน้าร้าน และ หากสินค้านี้ถูกใช้ในรายการคอมโบ จะไม่แสดงในใบเสร็จและใบออเดอร์ที่ปริ้นจากเครื่อง POS
- บาร์โค้ดสินค้า ระบุตัวเลขบาร์โค้ดของสินค้า (ถ้ามี)
- สต็อกสินค้า ระบุจำนวนสต็อกสินค้าของรายการนั้น ๆ
- สต็อกสินค้าเหลือน้อย หากระบุจำนวนขั้นต่ำและเปิดใช้งานฟังก์ชันแจ้งเตือนสต็อกเหลือน้อย ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อสินค้าถึงจำนวนที่กำหนด
- ราคาขาย ระบุราคาที่ต้องการขายหน้าร้าน
- ราคาต้นทุนหากระบุราคาต้นทุนในรายงานการขายระบบจะคำนวณกำไรสุทธิของสินค้านั้นๆ

7. การเลือกวิธีการขายสินค้า
ผู้ใช้งานสามารถเลือกวิธีการขายได้ 2 แบบ คือ
- สินค้าชิ้น เป็นการขายสินค้าแบบเงินบาททั่วไป ระบบจะให้ระบุชื่อและจำนวนสินค้า (คำนามเรียกสินค้า) เช่น จาน , ชาม , ชิ้น , แพ็ค เป็นต้น
- ชั่งน้ำหนักสินค้า เป็นการขายสินค้าตามน้ำหนัก ระบบจะให้เลือกหน่วยน้ำหนัก ได้แก่ g (กรัม) หรือ kg (กิโลกรัม)

8. SKU และ ตัวเลือก / ตัวเลือกเพิ่มเติม
- SKU (Stock Keeping Unit) คือรหัสเฉพาะของสินค้าแต่ละรายการ ใช้สำหรับการระบุและติดตามสินค้าในระบบ
หมายเหตุ: ระบบ GPOS จะทำการสร้างรหัส SKU ให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีการเพิ่มสินค้าใหม่ ไม่จำเป็นต้องกรอกรหัสเอง
- ตัวเลือก ใช้สำหรับระบุ ตัวแปรสินค้าเฉพาะในระบบ POS เช่น : ระดับความหวาน (หวานน้อย, ปกติ, หวานมาก) ปรับอุณหภูมิ (ร้อน, เย็น, ปั่น)
- ตัวเลือกเพิ่มเติม ใช้สำหรับระบุ ตัวเลือกที่ต้องการให้แสดงผลทั้งในระบบ POS และ GRAB เช่น : เพิ่มไข่มุก , เพิ่มเจลลี่ , เปลี่ยนท็อปปิ้ง
หากต้องการเชื่อมโยงเมนูหรือรายการเสริมกับ GRAB แนะนำให้ใช้ตัวเลือกเพิ่มเติม

9. วิธีการเพิ่มตัวเลือก
กดปุ่ม “เพิ่ม” เพื่อเข้าสู่หน้าจอเลือกตัวเลือก ระบบจะแสดงรายการ ตัวเลือก หรือ กลุ่มตัวเลือก ที่ได้สร้างไว้แล้ว สามารถ เลื่อนดู กลุ่มตัวเลือกได้ที่แถบด้านบน
- ทำการ ติ๊กเลือก ตัวเลือกที่ต้องการใช้งาน
- กดปุ่ม“ตกลง”เพื่อยืนยันการเลือก

9.1 การจัดลำดับกลุ่มตัวเลือก และการลบ
หลังจากเพิ่มกลุ่มตัวเลือกเข้ากับสินค้าแล้ว สามารถจัดลำดับและแก้ไขได้ดังนี้ :
- กดที่ สัญลักษณ์เรียงลำดับ (ไอคอนด้านขวาบน)
- และกดที่ สัญลักษณ์เรียงลำดับ อีกครั้ง (ไอคอนด้านหลังชื่อตัวเลือกที่ต้องการจัดลำดับ)
- ระบบจะให้ใส่ ตัวเลขลำดับ เพื่อจัดลำดับการแสดงผล
- กดปุ่ม “ตกลง” เพื่อบันทึกการจัดลำดับ
การลบกลุ่มตัวเลือก สามารถคลิกที่ปุ่ม “ลบ” ข้างชื่อกลุ่มตัวเลือก เพื่อทำการลบกลุ่มตัวเลือกที่ไม่ต้องการใช้งาน
หมายเหตุ:การลบกลุ่มตัวเลือกตัวเลือกที่ด้านในต้องไม่เชื่อมกับสินค้าจึงจะสามารถลบได้

9.2 การตั้งค่าตัวเลือก
หลังจากเพิ่มกลุ่มตัวเลือกเข้ากับสินค้าแล้ว สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมในแต่ละกลุ่มได้ :
- ตัวเลือก "ที่จำเป็น" ใช้สำหรับบังคับให้ลูกค้าต้องเลือกตัวเลือกก่อนสั่งซื้อสินค้า หากเปิดใช้งาน ระบบจะไม่อนุญาตให้กดสั่งซื้อโดยไม่เลือก
- ตัวเลือก "เลือกได้สูงสุด" ตั้งค่าจำนวนสูงสุดที่สามารถเลือกได้ในกลุ่มตัวเลือกนั้นๆ ลูกค้าสามารถเลือกได้น้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนที่ตั้งไว้
สามารถกด “เพิ่มตัวเลือก” เพื่อเพิ่มตัวเลือกอื่นๆ หากต้องการลบตัวเลือกออกให้กดสัญลักษณ์ถังขยะ ที่อยู่ด้านหลังรายการเมื่อทำการตั้งค่าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม “ตกลง” เพื่อบันทึก

9.3 การเพิ่ม “ตัวเลือกเพิ่มเติม”
ขั้นตอนการเพิ่มตัวเลือกเพิ่มเติม กดปุ่ม “เพิ่ม” เพื่อเข้าสู่หน้าจอเลือกตัวเลือกเพิ่มเติม ระบบจะแสดงรายการ ตัวเลือกเพิ่มเติม ที่ได้สร้างไว้ก่อนหน้านี้ สามารถ เลื่อนดู กลุ่มตัวเลือกเพิ่มเติมได้ที่แถบด้านบนของหน้าจอ
- ทำการ ติ๊กเลือก ตัวเลือกเพิ่มเติมที่ต้องการใช้งาน
- กดปุ่ม “ตกลง” เพื่อยืนยันการเลือก
หากต้องการเชื่อมโยงเมนูหรือรายการเสริมกับ GRAB แนะนำให้ใช้ตัวเลือกเพิ่มเติม

9.4 การจัดลำดับกลุ่มตัวเลือกเพิ่มเติม และการลบ
หลังจากเพิ่มกลุ่มตัวเลือกเพิ่มเติมเข้ากับสินค้าแล้วสามารถจัดลำดับและแก้ไขได้ดังนี้ :
- คลิกที่สัญลักษณ์เรียงลำดับ (ไอคอนด้านขวาบน)
- และกดที่ สัญลักษณ์เรียงลำดับ อีกครั้ง(ไอคอนด้านหลังชื่อตัวเลือกเพิ่มเติมที่ต้องการจัดลำดับ)
- ระบบจะแสดงช่องให้กรอก หมายเลขลำดับ
- กดปุ่ม“ตกลง”เพื่อบันทึกการจัดลำดับ

9.5 การตั้งค่าตัวเลือกเพิ่มเติม
หลังจากเลือกตัวเลือกเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถกำหนด เงื่อนไขการเลือก ภายในกลุ่มได้ ดังนี้:
- ตัวเลือกเพิ่มเติม “ที่จำเป็น” ใช้สำหรับบังคับให้ลูกค้าต้องเลือกตัวเลือกก่อนสั่งซื้อสินค้าหากเปิดใช้งานระบบจะไม่อนุญาตให้กดสั่งซื้อโดยไม่เลือก
- ตัวเลือกเพิ่มเติม “เลือกได้สูงสุด” ใช้กำหนดจำนวน สูงสุด ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้จากกลุ่มนั้น
สามารถกด “เพิ่มตัวเลือก” เพื่อเพิ่มตัวเลือกเพิ่มเติมอื่นๆหากต้องการลบตัวเลือกออกให้กดสัญลักษณ์ถังขยะ ที่อยู่ด้านหลังรายการเมื่อทำการตั้งค่าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม “ตกลง” เพื่อบันทึก

10. การตั้งค่าสถานะการขายของรายการสินค้า และ การตั้งค่า กำหนดราคาด้วยตนเองที่หน้าทำรายการ
- การตั้งค่าสถานะการขาย สามารถกำหนดสถานะการขายของสินค้าหรือเมนูได้ เพื่อควบคุมการแสดงผลในหน้าขาย POS เหมาะสำหรับการเปิด–ปิดเมนูตามฤดูกาล
- พร้อมขาย เมนูจะแสดงในหน้าขาย POS และสามารถใช้งานได้ตามปกติ ใช้สำหรับเมนูที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
- เลิกขายแล้ว เมนูจะ ไม่แสดง บนหน้าขาย POS เหมาะสำหรับเมนูที่เลิกจำหน่าย หรือไม่มีบริการในช่วงเวลานั้น
- การกำหนดราคาด้วยตนเองที่หน้าทำรายการ ใช้ในกรณีสินค้ามีราคาที่เปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่แน่นอน
- ได้ สามารถระบุราคาเองที่หน้าขาย POS ในขณะทำรายการ เหมาะสำหรับสินค้าแบบประเมินราคาหน้างาน
- ไม่ได้ ระบบจะใช้ราคาที่ตั้งไว้เท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขราคาในหน้าขายได้ เหมาะสำหรับสินค้าที่มีราคาคงที่

11. การตั้งค่ารูปแบบการแสดงผลของรายการสินค้า
ผู้ใช้งานสามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลเมนูในหน้าขายให้ตรงตามความเหมาะสมกับสินค้าได้ โดยเลือกระหว่าง แสดงเป็นรูปภาพ หรือ รูปร่าง + สี
- แบบรูปภาพ กดปุ่ม “+” เพื่ออัปโหลดรูปภาพจากมือถือ เหมาะสำหรับเมนูที่ต้องการให้ลูกค้าเห็นภาพตัวอย่างสินค้า
หมายเหตุ: รองรับไฟล์ภาพนามสกุล .jpg, .png, .jpeg ขนาดไฟล์สูงสุด 6MB
- แบบรูปร่างและสีสามารถเลือกรูปร่างพื้นหลังและสีที่ต้องการใช้ในกรณีที่ไม่มีรูปภาพหรือเพื่อจัดหมวดหมู่สีให้ดูง่าย

12. การระบุรายละเอียดคำอธิบาย (สำหรับ GrabFood)
หากร้านมีการเชื่อมบัญชีกับ GrabFood ผ่านระบบ GPOS สามารถกรอกคำอธิบายสินค้าเพิ่มเติมได้ เพื่อแสดงรายละเอียดให้กับลูกค้าบนแอป Grab ได้ ข้อความนี้จะ แสดงใน GrabFood เท่านั้น
- กรอกข้อความแนะนำ หรือข้อมูลสินค้า เช่น รสชาติ, ส่วนประกอบ, ข้อมูลแพ้อาหาร ฯลฯ
เมื่อกรอกข้อมูลทั้งหมดครบถ้วนแล้วให้กดปุ่ม“บันทึก”เพื่อยืนยันการสร้างหรือแก้ไขรายการสินค้า
