วิธีเลือกใช้ระบบ POS ให้เหมาะสมกับร้านค้า: เจ้าของธุรกิจยุคใหม่

ไม่ควรพลาด! ธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของชำในไทย ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปี 2568 ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศสูงถึง 657,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.6% ต่อปี โดยมีจำนวนร้านกว่า 690,000 ร้าน ทั่วประเทศ หรือเฉลี่ย 9.6 ร้านต่อประชากร 1,000 คน

ในการแข่งขันที่เข้มข้นเช่นนี้ การบริหารจัดการร้านอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านยุคใหม่ให้ความสำคัญ และ “ระบบ POS” ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลัก ที่ช่วยให้การดำเนินงานหน้าร้านเป็นไปอย่างราบรื่น สะดวก และแม่นยำ

ระบบ POS (Point of Sale) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องคิดเงินธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นระบบที่ช่วยจัดการธุรกิจร้านค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่หน้าร้านจนถึงหลังร้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการออเดอร์ สต๊อกสินค้า การชำระเงิน รายงานยอดขาย ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนธุรกิจในอนาคต

1. ประเภทของธุรกิจ : ระบบ POS ที่ดีควรสอดคล้องกับรูปแบบร้านของคุณ เช่น

• ร้านอาหาร/คาเฟ่ : ควรเลือกระบบที่สามารถจัดการคิวได้อย่างเป็นระบบ สามารถดูสถานะของโต๊ะได้ เพื่อที่พนักงานจะได้บริหารจัดการไม่ให้ลูกค้าต้องรอนาน รองรับการสั่งซื้อจากหลายจุดบริการ อย่างเช่น การสแกนสั่งอาหารจากโต๊ะ ซึ่งจะทำให้การสั่งอาหารง่าย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

• ร้านค้าปลีกทั่วไป : ควรเลือกระบบที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดการหลังร้านได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการออเดอร์และสต๊อกสินค้า หรือข้อมูลสรุปยอดขาย ที่ทางร้านสามารถนำไปวางแผนธุรกิจต่อไปได้

2. ฟีเจอร์ที่ใช่ ตอบโจทย์การใช้งาน : พิจารณาจากฟีเจอร์พื้นฐาน ที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างฟีเจอร์สำคัญที่ควรพิจารณามีดังนี้

• ระบบรับออเดอร์ขายหน้าร้าน หรือ รองรับการเชื่อมต่อแอปเดลิเวอรี

• ระบบ QR Ordering สั่งอาหารผ่านมือถือ

• รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ เช่น เงินสด, โอนผ่านบัญชีธนาคาร, สแกน QR Code

• ระบบจัดการสต๊อกและวัตถุดิบขั้นพื้นฐาน

• รายงานยอดขายแบบ Real-Time

• ระบบจัดการร้านผ่านแอปพลิเคชัน บนมือถือ

• ระบบจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของพนักงานแต่ละคน

• การแจ้งเตือนเงินเข้า/เงินออก

• ระบบสมาชิก (สะสมแต้ม หรือส่วนลด)

3. ความง่ายในการใช้งาน : ระบบ POS ควรมีหน้าตาที่ใช้งานง่าย และไม่ซับซ้อน ช่วยลด ระยะเวลาในการฝึกอบรมพนักงาน และพนักงานสามารถให้การบริการกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

4. รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต : ควรเลือกระบบ POS ที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจ อย่างเช่น การเพิ่มสาขา หรือการรองรับรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

5. การให้บริการหลังการขาย : เลือกใช้งานระบบ POS ที่มีทีมซัพพอร์ต คอยให้ความช่วยเหลือ หรือให้คำปรึกษา เมื่อเกิดปัญหาหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวระบบ หากระบบ POS ที่คุณเลือกใช้มีการซัพพอร์ตที่ดี ก็จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น หายห่วง!

หากลองพิจารณาตามคำแนะนำข้างต้น การเลือกระบบ POS ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องยาก และเมื่อคุณเลือกระบบ POS ได้อย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้การจัดการร้านเป็นระบบมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขาย มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และสร้างรากฐานที่แข็งแรงสำหรับการเติบโตในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาระบบ POS ที่ครบเครื่อง ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ GPOS คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

เริ่มต้นใช้งาน GPOS ได้ฟรี - ระบบบริหารจัดการร้านค้าแบบครบวงจร ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์ที่ร้านค้าส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ เช่น

• ระบบรับออเดอร์ขายหน้าร้านและเดลิเวอรี โดยสามารถเชื่อมต่อ Grab Marchant อัตโนมัติ จัดการออเดอร์ได้ง่ายๆในระบบเดียว

• รองรับการชำระเงินที่หลากหลายและสามารถเชื่อมต่อ QR API Kbank จากธนาคารกสิกรไทย เพื่อ ล็อกยอดชำระเงินอัตโนมัติ

• ดูรายงานยอดขายแบบเรียลไทม์ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปฯ บนมือถือ

• ระบบ QR Ordering ให้ลูกค้าสแกนสั่งอาหารผ่านมือถือได้ด้วยตนเอง

• ระบบจัดการสต็อกและวัตถุดิบขั้นพื้นฐาน ช่วยควบคุมสินค้าเข้า-ออก และต้นทุนได้อย่างเป็นระบบ

ที่สำคัญ เรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษา และช่วยเหลือคุณตลอดการใช้งาน ให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปด้วยกันกับเรา

✅ เริ่มต้นใช้งาน GPOS ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือขอคำแนะนำที่เหมาะกับร้านค้าของคุณได้ที่

📞 โทร: 02-114-8678

📱 Line: @gpos

📧 E-mail: contact@gpos.co.th

🌐 Website: www.gpos.co.th